DITTO ชูผลงาน Q1/64 ทำกำไรสุทธิ 41.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.6% ตั้งเป้าหมายทำรายได้ทั้งปีเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เริ่มรับรู้รายได้จากงานใหม่ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564

17 พฤษภาคม 2564

บมจ.ดิทโต้ (ประเทศไทย) หรือ DITTO ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 ทำกำไรสุทธิ 41.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้จาการขายและบริการกว่า 986 ล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้จากงานที่เซ็นสัญญาใหม่ ได้แก่ งานแปลงโฉนดให้แก่กรมที่ดิน และงานรับเหมาด้านวิศวกรรมเทคโนโลยี ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2564 มูลค่างานรวมประมาณ 280 ล้านบาท

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“DITTO” หรือ “บริษัทฯ”) ผู้ให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลอย่างครบวงจร (Document and Data Management Solutions) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 สามารถทำกำไรสุทธิทั้งสิ้น 41.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 33.0 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 257.82 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 254.6 ล้านบาท

สำหรับผลกำไรที่เติบโตได้ดีนั้น มาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารและข้อมูลแบบครบวงจร (Document & Data Management Solutions) ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดียิ่งขึ้น

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DITTO กล่าวต่อว่า หลังจากนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ บริษัทฯ วางเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 ตั้งเป้ารายได้จากการขายและบริการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 986.3 ล้านบาท โดยจะมุ่งขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจจำหน่ายและให้บริการระบบบริหารจัดการเอกสารดิจิทัล ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมาและมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการปรับเปลี่ยนการทำงานของหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนสู่รูปแบบดิจิทัล พร้อมกับมุ่งสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้าประมูลงานโครงการวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีของหน่วยงานราชการต่างๆ และนำเสนอบริการใหม่เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจให้เช่า จำหน่าย และให้บริการด้านเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ และสินค้าเทคโนโลยีอื่นๆ โดยคาดว่าธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่มมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ทั้งธุรกิจบริหารจัดการระบบเอกสารที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าชั้นนำจากภาครัฐและองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ที่มีความต้องการใช้บริการอีกเป็นจำนวนมาก ธุรกิจรับเหมาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยี ที่มีการเข้าประมูลงานโครงการใหม่และโครงการที่รอรับรู้รายได้ รวมถึงธุรกิจจำหน่ายและให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งยังคงมีอัตราการทำกำไรอยู่ในระดับที่ดีและสร้างรายได้แก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2564 จะได้รับผลดีจากการรับรู้รายได้จากงานใหม่ที่เซ็นสัญญาแล้วคิดเป็นมูลค่างานรวมประมาณ 280 ล้านบาท ได้แก่ งานแปลงโฉนดให้แก่กรมที่ดิน มูลค่างานประมาณ 100 ล้านบาท และงานรับเหมาด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีอีกประมาณ 180 ล้านบาท ทั้งหมดเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2564

“บริษัทฯ เชื่อว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนอีกเป็นจำนวนมาก ที่มีความต้องการปรับเปลี่ยนเอกสารและข้อมูลเป็นรูปแบบดิจิทัล เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ลดการใช้เอกสาร (Paperless) ลดต้นทุนในการจัดเก็บและมีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ใช้ความเชี่ยวชาญเข้าไปให้คำปรึกษาและจัดระบบฐานข้อมูล ให้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” นายฐกร กล่าว